每年的 7 月 29 日是「國家泰語日」,設立目的是希望泰國人民能夠意識到泰語的價值與重要性,並一起維護、推廣與保存這門語言。之所以訂在這天,也是為了紀念蒲美蓬.阿杜德國王(拉瑪九世)於 1962 年 7 月 29 日前往朱拉隆功大學,與專家們共同探討有關「泰語詞彙使用的問題」,可說是一個充滿歷史性的日子。
這是我目前為止花最多時間翻譯的文章,因為充滿了不少皇室用語,篇幅也稍長,讓我查字典查到懷疑人生🤣。不過,這無疑是一段深具意義的歷史故事,不只讓我對泰語的發展歷程有更多了解,也讓我深切感受到泰語在泰王心中的份量。
※本篇翻譯自 Sanook 的文章《國家泰語日,2568 年 7 月 29 日,歷史與重要性。》
ภาษาเป็นระบบการสื่อสารที่สำคัญอย่างหนึ่งของมนุษย์ เพราะมนุษย์ต้องใช้ภาษาในการติดต่อ บอกความประสงค์ ความรู้สึกนึกคิด ถ่ายทอดประสบการณ์ และความรู้แก่กัน ภาษาไทยก็เป็นภาษาที่ใช้เป็นสื่อในการแสดงความรู้ ความคิด ประสบการณ์ และวัฒนธรรมของชาติ ซึ่งมีลักษณะเด่นเฉพาะตัวและมีเอกลักษณ์แตกต่างจากภาษาอื่น
語言是人類重要的溝通系統之一,因為人類必須使用語言來互相聯繫、表達渴望、感受、傳遞經驗與知識。泰語也是用來傳達國家知識、思想、經驗與文化的語言,具有獨特的風格和別於其他語言的特性。
โดย ภาษาไทยเป็นภาษาที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภาษาไทยมีรากฐานมาจากออสโตรไทย ซึ่งมีความคล้ายคลึงกับภาษาจีน ต่อมาพ่อขุนรามคำแหงได้ประดิษฐ์อักษรไทยขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 1826 โดยมีพยัญชนะไทย 44 ตัว (21 เสียง), สระ 21 รูป (32 เสียง), วรรณยุกต์ 5 เสียง คือ เสียงสามัญ เอก โท ตรี และจัตวา
泰語是東南亞國家中最古老的語言,且泰語有源自澳泰語系(Austro-Tai)的根基,與漢語具有相似性。後來,蘭甘亨大帝在佛曆 1826 年(西元 1283 年)創造了泰文字母,有 44 個子音(21 種發音),21 個母音字母(32 種發音),5 種聲調,也就是中音調(Mid / สามัญ)、低音調(Low / เอก)、降音調(Falling / โท)、高音調(High / ตรี)與升音調(Rising / จัตวา)。
วันภาษาไทยแห่งชาติ มีขึ้นเพื่อระลึกถึงเหตุการณ์ในวันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 ซึ่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชเสด็จพระราชดำเนินไปทรงอภิปรายเรื่อง "ปัญหาการใช้คำไทย" ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิที่ คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
國家泰語日的設立,是為了紀念佛曆 2505 年(西元 1962 年)7 月 29 日的事件。那是蒲美蓬.阿杜德國王陛下前往朱拉隆功大學文學院,與專家們共同探討有關「泰語詞彙使用的問題」的日子。
วันภาษาไทยแห่งชาติ ตรงกับวันที่เท่าไร
國家泰語日是哪一天?
วันภาษาไทยแห่งชาติ ตรงกับวันที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปี
國家泰語日,是每年的 7 月 29 日。
ประวัติวันภาษาไทยแห่งชาติ
國家泰語日的歷史
คณะกรรมการรณรงค์เพื่อภาษาไทย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ตระหนักในคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย และมีความห่วงใยในปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นต่อภาษาไทย และเพื่อกระตุ้นและปลุกจิตสำนึกให้คนไทยทั้งชาติได้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย ตลอดจนร่วมมือกันทำนุบำรุง ส่งเสริม และอนุรักษ์ภาษาไทยให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป
朱拉隆功大學的泰語推廣委員會,意識到泰語的價值與重要性,並憂心於泰語所面臨的各種問題。旨在激發與喚醒全體泰國人能夠意識到泰語的價值與重要性,並攜手維護、推廣和保存泰語,使其能與泰國永久共存。
จึงได้เสนอขอให้รัฐบาลประกาศให้วันที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ เช่นเดียวกับวันสำคัญอื่นๆ ที่รัฐบาลได้จัดให้มีมาก่อนแล้ว เช่น “วันวิทยาศาสตร์แห่งชาติ” และ “วันสื่อสารแห่งชาติ” เป็นต้น และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันอังคารที่ 13 กรกฎาคม 2542 เห็นชอบให้ วันที่ 29 กรกฎาคม ของทุกปี เป็นวันภาษาไทยแห่งชาติ
因此,委員會提議並請求政府宣布將每年的 7 月 29 日訂為國家泰語日,如同政府以往訂立的其他重要日子一樣,例如「國家科學日」和「國家通訊日」等。內閣於佛曆 2542 年(西元 1999 年)7 月 13 日星期二的會議中通過決議,批准將每年的 7 月 29 日訂為國家泰語日。
วันที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2505 พระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเป็นประธานและทรงอภิปรายเรื่อง "ปัญหาการใช้คำไทย" ร่วมกับผู้ทรงคุณวุฒิในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ทรงแสดงความห่วงใยในภาษาไทย ทำให้ผู้ร่วมประชุมครั้งนั้นประทับใจ พระราชดำรัสตอนหนึ่งว่า
佛曆 2505 年(西元1962 年)7 月 29 日,蒲美蓬.阿杜德國王陛下前往朱拉隆功大學文學院,主持泰語學會的學術會議,並與專家們共同探討有關「泰語詞彙使用的問題」。他表達了對泰語的擔憂,令該次與會者印象深刻。其中一段演說提到:
"เรามีโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ ปัญหาเฉพาะในด้านรักษาภาษานี้ก็มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในทางออกเสียง คือ ให้ออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีใช้ หมายความว่า วิธีใช้คำมาประกอบประโยค นับเป็นปัญหาที่สำคัญ ปัญหาที่สาม คือ ความร่ำรวยในคำของภาษาไทย ซึ่งพวกเรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้...สำหรับคำใหม่ที่ตั้งขึ้นมีความจำเป็นในทางวิชาการไม่น้อย แต่บางคำที่ง่าย ๆ ก็ควรจะมี ควรจะใช้คำเก่า ๆ ที่เรามีอยู่แล้ว ไม่ควรจะมาตั้งศัพท์ใหม่ให้ยุ่งยาก"
「我們有幸自古以來就擁有自己的語言,因此十分應當好好保存下來。在保存這個語言的方面,也有許多具體的問題。其一,是必須保持發音上的純正,也就是發音要正確、清晰;另一方面,是必須保持使用上的純正。意思是,運用詞彙來組成句子的方式,可謂是重要的問題;第三個問題,是泰語詞彙的豐富性。我們會認為不夠豐富,而必須創造新詞彙來使用…那些被創造的新詞彙,在學術面上有著不小的必要性,但有些簡單的詞彙,應該本來就有、也應該使用我們原本就有的舊詞彙,不應該創造新詞彙,而讓情況變得更複雜。」
ความสำคัญของวันภาษาไทยแห่งชาติ
國家泰語日的重要性
ประเทศไทยมีภาษาไทยเป็นภาษาประจำชาติ อันเป็นเอกลักษณ์ที่สำคัญอย่างหนึ่งของชาติ สมควรจะได้รับการทำนุบำรุงส่งเสริม และอนุรักษ์ไว้ให้ยั่งยืนตลอดไป ทั้งนี้ในยุคปัจจุบันวิชาการและเทคโนโลยีต่างๆ ได้ก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วเกิดเทคนิคใหม่ๆ ในการติดต่อสื่อสาร มี่มุ่งเน้นความสะดวกรวดเร็ว ส่งผลให้ภาษาไทยซึ่งเป็นสื่อกลางสำคัญในการติดต่อและผูกพันต่อการดำรงชีวิตประจำวันของคนไทยได้รับผลกระทบ ทั้งภาษาพูดและภาษาเขียน ทำให้ภาษาไทยเกิดการเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างน่าวิตกเป็นอย่างยิ่ง สภาพการณ์เช่นนี้หากไม่เร่งรีบหาทางแก้ไขและป้องกันเสียแต่เนิ่นๆ การใช้ภาษาไทยของเราก็จะยิ่งเสื่อมลง จะส่งผลเสียหายต่อเอกลักษณ์และคุณค่าของภาษาไทยเป็นทวีคูณ
泰國擁有泰語作為國家語言,泰語是國家重要的特色之一,應該受到維護、推廣與保存,使其得以永久存續。如今,各種學術與技術日新月異,發展出著重於便利與快速的新通訊技術,使得作為泰國人日常生活上交流與維繫的重要媒介的泰語受到影響,無論是口語或書面語,都讓泰語相較以往產生了令人極為擔憂的變化。這樣的狀況,如果不及早盡快尋找解決方案,並加以預防,我們使用的泰語就會更加衰退,導致泰語的特色和價值受到極大損害。
ทำไมต้องกำหนดวันที่ 29 กรฎาคม เป็น "วันภาษาไทยแห่งชาติ"
為什麼要指定 7 月 29 日成為「國家泰語日」?
เพราะวันภาษาไทยแห่งชาติ ตรงกับวันที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้เสด็จพระราชดำเนินไปเป็นประธานและทรงร่วมอภิปรายในการประชุมทางวิชาการของชุมนุมภาษาไทย คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ ห้องประชุมคณะอักษรศาสตร์ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2505 ทรงเปิดการอภิปรายในหัวข้อ “ปัญหาการใช้คำไทย” ทรงดำเนินการอภิปรายและทรงสรุปการอภิปรายอย่างดีเยี่ยม แสดงถึงพระปรีชาสามารถและความสนพระราชหฤทัยและความห่วงใยในภาษาไทย เป็นที่ประทับใจผู้เข้าร่วมการประชุมในครั้งนั้นเป็นอย่างยิ่ง นับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์ของวงการภาษาไทย ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาธิคุณดังกล่าว และในโอกาสต่อๆ มาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวยังได้ทรงแสดงความสนพระราชหฤทัยและความห่วงใยในภาษาไทยอีกหลายโอกาส เช่น ได้พระราชทานพระราชดำรัสเกี่ยวกับปัญหาในการใช้ภาษาไทยของประชาชนชาวไทยในปัจจุบัน ในวโรกาสที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ข้าราชการและองค์กรเอกชนเข้าเฝ้าถวายชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา เจริญพระชนมายุครบ 6 รอบ
因為國家泰語日與蒲美蓬.阿杜德國王於佛曆 2505 年(西元 1962 年)7 月 29 日前往朱拉隆功大學文學院,在文學院會議室中主持泰語學會的學術會議,並參與討論的日子是同一天。國王以「泰語詞彙使用的問題」為主題開啟討論,推動會議進行,並卓越地總結內容,展現了國王的智慧與才能,以及對泰語的關切與擔憂,讓該次與會者留下極為深刻的印象。在泰語領域的歷史上,可說是首次也是唯一一次,承蒙如此皇家賜予的恩典,且在之後眾多場合中,國王也表達了對泰語的關切與擔憂。例如,在慶祝國王 72 歲壽辰之際,恩准政府官員與民間組織覲見皇室,獻上祝賀,並發表關於「當今泰國人民在泰語使用上的問題」的演說。
นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวได้ทรงย้ำให้ประชาชนชาวไทยตระหนักถึงความสำคัญของภาษาไทยและพระราชทานแนวความคิดในการอนุรักษ์ภาษาไทยในโอกาสต่างๆ อยู่เสมอ ที่สำคัญยิ่งกว่านี้ คือ เป็นที่ประจักษ์ว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีพระปรีชาญาณและพระอัจฉริยภาพในการใช้ภาษาไทยทรงรอบรู้ปราดเปรื่องถึงรากศัพท์ของคำไทย คือ ภาษาบาลีและสันสกฤต ทรงพระอุตสาหะวิริยะแปลและเรียบเรียงวรรณกรรมภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทยที่สมบูรณ์ด้วยลักษณะวรรณศิลป์ มีเนื้อหาสาระที่มีคุณค่าเป็นคติในการเสียสละเพื่อส่วนรวม และเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนในการใช้ภาษาไทย ดังจะเห็นได้จากพระราชนิพนธ์แปลเรื่องนายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ ติโต พระราชนิพนธ์แปลบทความเรื่องสั้นๆ หลายบท และพระราชนิพนธ์ เรื่อง พระมหาชนก นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณล้นเกล้าล้นกระหม่อมที่สุดมิได้แก่วงการ
此外,蒲美蓬.阿杜德國王也不斷在各種場合中,反覆向泰國人民強調應認知到泰語的重要性,並提出有關保存泰語的理念。更重要的是,國王在泰語的運用上,顯而易見地,具備智慧與天賦,通曉並深諳泰語詞彙的詞源,即巴利語和梵語。國王致力於將外國文學作品翻譯並編排成富含文學藝術風格的泰文版本,其內容蘊含價值,傳遞出為大眾犧牲奉獻的啟示,並成為人民使用泰語的典範。例如,可從國王的譯作《นายอินทร์ผู้ปิดทองหลังพระ》(原作 A Man Called Intrepid)、《ติโต》(原作 Tito)、多篇短文譯作,以及國王的著作《พระมหาชนก》(The story of Mahajanaka)中看出。對泰語界而言,這些作品可說是無比崇高的皇室恩典。
พระราชดำรัสในครั้งนั้น ตอนหนึ่งความว่า “เรามีโชคดีที่มีภาษาของตนเองแต่โบราณกาล จึงสมควรอย่างยิ่งที่จะรักษาไว้ ปัญหาเฉพาะในด้านรักษาภาษานี้ก็มีหลายประการ อย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในทางออกเสียง คือให้ออกเสียงให้ถูกต้องชัดเจน อีกอย่างหนึ่งต้องรักษาให้บริสุทธิ์ในวิธีใช้ หมายความว่าวิธีใช้คำมาประกอบประโยค นับเป็นปัญหาที่สำคัญ ปัญหาที่สาม คือความร่ำรวยในคำของภาษาไทย ซึ่งพวกเรานึกว่าไม่ร่ำรวยพอ จึงต้องมีการบัญญัติศัพท์ใหม่มาใช้ ...... สำหรับคำใหม่ที่ตั้งขึ้นมีความจำเป็นในทางวิชาการไม่น้อย แต่บางคำที่ง่ายๆ ก็ควรจะมี ควรจะใช้คำเก่าๆที่เรามีอยู่แล้ว ไม่ควรจะมาตั้งศัพท์ใหม่ให้ยุ่งยาก ...”
那次的演說中,有一段提到「我們有幸自古以來就擁有自己的語言,因此十分應當好好保存下來。在保存這個語言的方面,也有許多具體的問題。其一,是必須保持發音上的純正,也就是發音要正確、清晰;另一方面,是必須保持使用上的純正。意思是,運用詞彙來組成句子的方式,可謂是重要的問題;第三個問題,是泰語詞彙的豐富性。我們會認為不夠豐富,而必須創造新詞彙來使用……那些被創造的新詞彙,在學術面上有著不小的必要性,但有些簡單的詞彙,應該本來就有、也應該使用我們原本就有的舊詞彙,不應該創造新詞彙,而讓情況變得更複雜。」
นอกจากนี้ยังมีพระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม 2512 ความว่า “ในปัจจุบันนี้ปรากฏว่า ได้มีการใช้คำออกจะฟุ่มเฟือย และไม่ตรงกับความหมายอันแท้จริงอยู่เนืองๆ ทั้งออกเสียงก็ไม่ถูกต้องตามอักขรวิธี ถ้าปล่อยให้เป็นไปดังนี้ ภาษาของเราก็มีแต่จะทรุดโทรม ชาติไทยเรามีภาษาของเราใช้เองเป็นสิ่งอันประเสริฐอยู่แล้ว เป็นมรดกอันมีค่าตกทอดมาถึงเราทุกคน จึงมีหน้าที่จะตัองรักษาไว้ ฉะนั้น จึงขอให้บรรดานิสิตและบัณฑิต ตลอดจนครูบาอาจารย์ได้ช่วยกันรักษาและส่งเสริมภาษา ซึ่งเป็นอุปกรณ์และหลักประกันเพื่อความเจริญวัฒนาของประเทศชาติ”
此外,國王於佛曆 2512 年(西元 1969 年)7 月 9 日朱拉隆功大學的畢業典禮上,也有發表演說,提到「目前可以看見,泰語在用詞上有過於浮誇的情形,且時常與真正的意思不符;發音也不正確,不符合正確的拼音規則。若任由這種情況持續下去,我們的語言只會日漸衰退。我們泰國擁有一套自己使用的語言,本身就是一件非常棒的事,這是傳承到我們手中的珍貴遺產,所以我們有責任必須加以維護。因此,希望所有大學生及畢業生,包含師長們,能夠一起幫忙維護和推廣泰語,因為泰語是促進國家繁榮與發展的工具及保障。」
วัตถุประสงค์ของวันภาษาไทยแห่งชาติ
國家泰語日的宗旨
.เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช ผู้ทรงเป็นนักปราชญ์ และนักภาษาไทย รวมทั้งเพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ที่ได้ทรงแสดงความห่วงใยและพระราชทานแนวคิดต่างๆ เกี่ยวกับการใช้ภาษาไทย
.旨在頌揚蒲美蓬.阿杜德國王陛下作為一位博學之士與泰語學者的崇高威望,與恭敬地追思國王在泰語使用上所表達的擔憂,並提出各項理念的皇室恩典。
.เพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในมหามงคลสมัยเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 5 ธันวาคม 2542
.旨在一同頌揚國王的崇高威望,在佛曆 2542 年(西元 1999 年)12 月 5 日慶祝國王 72 歲壽辰的隆重吉祥之際。
.เพื่อกระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของคนไทยทั้งชาติให้ตระหนักถึงความสำคัญและคุณค่าของภาษาไทย ตลอดจนร่วมมือร่วมใจกันทำนุบำรุงส่งเสริม และอนุรักษ์ภาษาไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และเป็นสมบัติวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติให้คงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป
.旨在激發與喚醒全體泰國人意識到泰語的價值與重要性,並攜手維護、推廣和保存泰語──這項國家珍貴的特徵與文化資產,使其得與泰國永久共存。
.เพื่อเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการใช้ภาษาไทย ทั้งในวงวิชาการและวิชาชีพ รวมทั้งเพื่อยกมาตรฐานการเรียนการสอนภาษาไทยในสถานศึกษาทุกระดับให้มีสัมฤทธิผลยิ่งขึ้น
.旨在提升泰語使用的效率,無論是在學術界或專業領域,包含提高各級學校對於泰語教學的標準,使其更有成效。
.เพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐบาลและเอกชนทั่วประเทศมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมที่หลากหลาย เพื่อเผยแพร่ความรู้ภาษาไทยในรูปแบบต่างๆ ไปสู่สาธารณชนทั้งในฐานะที่เป็นภาษาประจำชาติ และในฐานะที่เป็นภาษาเพื่อการสื่อสารของทุกคนในชาติ
.旨在提供機會給各個單位,包含全國政府部門及民間組織,能夠一起舉辦各式各樣的活動,透過各種形式向大眾傳播泰語知識──無論是作為國家語言,或作為全民的溝通語言。
ประโยชน์ที่ได้รับจากการมีวันภาษาไทยแห่งชาติ คาดว่าจะมีผลดีสืบเนื่องหลายประการ คือ
從設立國家泰語日所獲得的益處,預期將會持續產生許多正面成效,
也就是:
.การมี “วันภาษาไทยแห่งชาติ” จะทำให้หน่วยงานต่างๆ ทั้งภาครัฐบาลและเอกชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน่วยงานในกระทรวงศึกษาธิการ และทบวงมหาวิทยาลัย ตระหนักในความสำคัญของภาษาไทย และร่วมกันจัดกิจกรรมเพื่อกระตุ้นเตือน เผยแพร่ และเน้นย้ำให้ประชาชนเห็นความสำคัญของ “ภาษาประจำชาติ” ของคนไทยทุกคน และร่วมมือกันอนุรักษ์การใช้ภาษาไทยให้มีความถูกต้องงดงามอยู่เสมอ
.設立「國家泰語日」,將使各個單位,包含政府部門及民間組織,特別是教育部所屬單位和大學事務部,意識到泰語的重要性,並共同舉辦活動來提醒、宣傳和強調這件事,讓人民看見屬於所有泰國人的「國家語言」的重要性,並攜手維護泰語的使用,使其永遠正確與美麗。
.บุคคลในวงวิชาชีพต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ภาษาไทย โดยเฉพาะในวงการศึกษา และวงการสื่อสาร ช่วยกันกวดขันดูแลให้การใช้ภาษาไทยเป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสม มิให้ผันแปรเปลี่ยนแปลง จนเกิดความเสียหายแก่คุณลักษณะของภาษาไทยอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติ
.與泰語使用相關的各個專業領域人士,特別是教育界與媒體界,將共同嚴格把關泰語使用的正確性與適當性,避免產生偏異,致使作為國家特徵的泰語獨特性受到損害。
.ผลสืบเนื่องในระยะยาว คาดว่าปวงชนชาวไทยทั่วประเทศจะตื่นตัวและสนใจที่จะร่วมกันฟื้นฟู ทำนุบำรุง ส่งเสริมและอนุรักษ์ภาษาไทย อันเป็นเอกลักษณ์และสมบัติวัฒนธรรมที่สำคัญของชาติให้ดำรงคงอยู่คู่ชาติไทยตลอดไป
.長遠的成效是,期待全泰國的人民能夠覺醒,有興趣一同復興、維護、推廣與保存泰語──這項國家重要的特徵與文化資產,使其得與泰國永久共存。
กิจกรรมในวันภาษาไทยแห่งชาติ
國家泰語日的活動
กิจกรรมในวันภาษาไทยแห่งชาติ ก็จะมีทั้งของสถาบันการศึกษา,หน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ที่จะมีการจัดกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การจัดนิทรรศการ, การอภิปรายทางวิชาการ, การประกวดแต่งคำประพันธ์ ร้อยแก้ว ร้อยกรอง การขับเสภา การเล่านิทาน เป็นต้น
國家泰語日的活動,會有教育機構、政府單位和民間組織,舉辦各式各樣的活動。例如:舉辦展覽會、學術討論、詩詞、散文和韻文創作比賽、吟詩比賽、說故事比賽等。
ภาษาไทยถือเป็นภาษาแห่งชาติ และเป็นเอกลักษณ์ของชาติที่เราคนไทยควรภาคภูมิใจ เพราะบางประเทศไม่มีแม้กระทั่งภาษาที่เป็นของตัวเอง ดังนั้นเราควรอนุรักษ์ภาษาไทยให้คงอยู่ และสืบทอดต่อไปให้ลูกหลานได้ศึกษา หากเราคนไทยไม่ช่วยกันรักษาไว้ สักวันหนึ่งอาจจะไม่มีภาษาไทยให้ลูกหลานใช้ก็เป็นได้
泰語是國家語言,也是我們泰國人應該引以為傲的國家特色,因為有些國家甚至沒有屬於自己的語言。因此,我們應該保存泰語,使其得以延續,並傳承下去讓後代子孫能夠學習。如果我們泰國人不一起維護它,也許有一天,就沒有泰語能讓後代子孫使用了。
本篇取自 Sanook:https://www.sanook.com/campus/1405751/