今天這篇文章稍微長了一點,主要在探討「想變得更好」的思維模式。我自己也是屬於這一類人,總是不斷想追求更好的自己,直到哪一刻突然感覺累了,才會停下來問問自己:「現在還不夠好嗎?」或是「我真的需要這麼好嗎?」
就像文中提到的,我們心中的理想自我,或許只存在於明天,但那個明天,卻可能永遠都不存在。還有許多段落都讓我挺有共鳴,覺得這是一篇蠻有深度的文章,推薦給同樣總是努力「想變得更好」卻不時感到迷惘的你們😊
※本篇翻譯自 The MATTER 的文章《因為「足夠好」可能根本不存在?自我提升固然是好事,但有時卻可能反而破壞自我。》
เคยมีคำกล่าวว่า ขอเป็นตัวเราที่ดีขึ้น เก่งขึ้นกว่าตัวเราในเมื่อวาน
曾有句話說:「願我成為比昨天更好、更優秀的自己。」
ในภาพรวม ถ้าเรามองว่าตัวเราอาจพัฒนาขึ้นครั้งละเล็กละน้อย โดยที่เราไม่ต้องกดดันในการฝึกฝนหรือปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นอย่างมากมาย ในระดับที่เราไม่กดดันตัวเองมากนัก ก็เป็นเรื่องที่ดี แนวคิดเรื่องการพัฒนาตัวเอง หรือการก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ไม่ได้มีปัญหาอะไรในตัวเอง
整體來看,如果我們認為自己或許能逐步地成長,不必過度施加壓力來訓練或調整自己變得更好,那麼在不給予自己過多壓力的程度下,也是一件好事。自我提升,或是不斷向前邁進的想法,對我們本身而言也可以說是沒什麼問題。
ทว่า ด้วยกรอบความคิดแบบโลกสมัยใหม่ คือเรามองเส้นเวลาในชีวิตของเราเป็นเส้นตรง เป็นเหมือนกราฟที่ขยับไปข้างหน้าตามอายุที่มากขึ้นเรื่อยๆ แน่นอน เวลาที่มีเหลือน้อยลงเรื่อยๆ มุมมองต่อโลกแบบเป็นเส้นตรง และมองว่าเส้นตรงนั้นๆ ควรจะต้องยกหัวขึ้นไปเรื่อยๆ
然而,在現代的思考框架下,我們將自己的人生時間軸視為一條直線,就像隨著年齡增長而向前延伸的圖表一樣,剩下的時間勢必會越來越少──將人生看作一條直線,並認為這條直線應該要不斷地向上攀升。
เราต้องมีความมั่นคงในชีวิตที่มากขึ้น มีรายได้ที่มากขึ้น มีความสามารถที่ดีขึ้น เพิ่มพูนขึ้น และเราเอง มองตัวเองในอนาคต โดยเปรียบเทียบกับตัวเราเองในเมื่อวาน ท้ายที่สุด บางครั้งเมื่อเราผ่านเวลาที่ยาวนานมากขึ้นจริงๆ การที่เราไล่ตามตัวเองที่ดีกว่าอยู่เสมอ พอถึงจุดหนึ่ง ความรู้สึก‘อยากดีขึ้น’ที่มาขับเคลื่อนเราอยู่ อาจไม่ใช่คำตอบเดียวในการใช้ชีวิต และการเฆี่ยนตีตัวเองเสมอ ก็อาจไม่ใช่วิธีการใช้ชีวิตที่ดีนัก
我們必須擁有越來越穩定的人生、有越來越高的收入、有越來越好的能力,不斷地提升。而我們透過與昨天的自己互相比較,來看待未來的自己。最後,當我們有時真的經歷了很長一段時間後,會發現我們總是在追尋比現在更好的自己,直到這個時刻──發現驅使我們「想變更好」的感覺,也許不是生活上唯一的解答;而不停鞭策自己,或許也不是一種好的生活方式。
บางความรู้สึกเราอาจจะพบว่า มุมมองหรือตัวตนของเราในวันนี้เปลี่ยนแปลงไปจากช่วงเวลาก่อนหน้า แต่เราก็อาจไม่จำเป็นต้องเก่งกาจหรือฉลาดเฉลียวจนแตกต่างตากตัวเราในหลายวัน หลายเดือนหรือหลายปีก่อน เราอาจไม่จำเป็นต้องมีความรู้สึกว่า เราต้องมองเห็นข้อเสียและมุ่งมั่นแก้ข้อเสีย หรือมีรายชื่อสิ่งที่เราควรเป็นที่ยาวเป็นหางว่าวอีกต่อไป
有些感受可能會讓我們發現,今天的觀點或自己,與過去相比已有所改變,但我們或許也不必變得更加勇敢或聰明,而和數天前、數月前或數年前的自己截然不同;我們或許不必覺得,應該要看見自己的缺點並致力於修正缺點,或者也不必再有一長串我們應該成為什麼模樣的清單。
พัฒนาตน หรือทุบทำลายตน
提升自己,還是破壞自己?
ประเด็นเรื่องการพัฒนาตัวเอง มีหลายข้อคิดเห็นว่า การพัฒนาตัวเองหลายครั้งนำมาสู่การทุบทำลายตน(Self sabotage) เรื่องการพัฒนาตัวเองถือว่าเป็นอีกปรัชญาการมองโลกและการใช้ชีวิตที่ค่อนข้างซับซ้อน และอันท่ีจริง เป็นความพยายามในการวัด กะเกณฑ์สิ่งที่เป็นนามธรรมและจับต้องได้ยาก ทั้งแนวคิดเรื่องชีวิต- เวลา และ ตัวตน
對於自我提升的議題,有許多看法認為,自我提升很多時候會導致自我破壞(Self sabotage)。自我提升被視作另一種較為複雜地看待世界和生活的哲學,事實上,它是在試圖衡量、規範那些抽象和難以觸碰的事物,包含生活觀念、時間與自我。
หมายความว่า แนวคิดเรื่องการพัฒนาตัวเอง เป็นความพยายามประเมินค่าความหมายในตัวตนของเรา เราอยู่ตรงไหน มีศักยภาพแค่ไหน และเป็นการตีความชีวิตที่แสนวกวน รวมถึงตัวตนของเราด้วยกรอบที่เรียบง่ายขึ้น คืออาจเป็นการใส่รายชื่อความสามารถ หรือวางหมุดหมายอย่างเรียบง่าย รวมถึงการลากเส้นตรงของชีวิตที่ยุ่งเหยิง เข้าสู่เส้นเวลาและกราฟที่เป็นเส้นตรง
意思是說,自我提升的觀念,是在試圖評估我們的自我價值──我們身在何處?擁有多少潛力?同時,它也是對曲折人生的一種詮釋方式,包括以更簡化的框架來看待我們的自我,也許是列出能力清單、設立簡單的里程碑,或是在混亂的人生中拉出一條直線,讓它成為筆直的時間軸和圖表。
ถ้าเราอธิบายด้วยกรอบความคิด คือเรากำลังมองเวลาและตัวตนของเราด้วยวิธีแบบสมัยใหม่ มองว่าเรากำลังเติบโตไปข้างหน้า รุดไปข้างหน้าเหมือนเวลาที่เดินไปข้างหน้า ทว่า ตัวตนของเราอาจไม่ได้เติบโตเป็นเส้นตรง ตัวตนของเรา มุมมองของเราอาจแผ่กิ่งก้านสาขา มีความเปลี่ยนแปลง มีการสูญหาย โยนทิ้ง งอกขึ้นใหม่เหมือนกับต้นไม้ที่ทั้งมีบาดแผลและเติบโตเยียวยาตัวเอง
如果我們透過思維框架來解釋,就是我們正在以現代的方式來看待時間和自我,認為自己正在向前成長、迅速地向前邁進,如同時間也在向前一樣。然而,我們的自我,或許並不是直線型的成長,我們的自我和觀點,可能是向外擴展出去的,有變化、有失去、有丟棄,也有重新萌芽,就像一棵既有傷痕,又能成長與自我療癒的樹一樣。
ปัญหาของการพัฒนาตัวเอง ส่วนใหญ่เป็นมุมมองจากนักจิตวิเคราะห์ ซึ่งอันที่จริง พื้นฐานของจิตใจอันซับซ้อนของเรา มักมี‘ตัวตนอันสัมบูรณ์(ideal-self)’สถิตอยู่ที่ไหนซักแห่งอยู่เสมอ แต่ความน่าปวดหัวของตัวตนและจิตใจของเราคือ ตัวตนที่สมบูรณ์ของเรา ไม่เคยอยู่กับเราในปัจจุบัน ตัวตนที่ดีที่สุด มักเป็นตัวตนของเราในวันอื่น ไม่อยู่ในอดีตก็เป็นตัวเราในอนาคต
關於「自我提升」的問題,大多來自精神分析學家的觀點。事實上,我們複雜的基礎心理,總是有個「理想自我(ideal-self)」存在於某個地方。但讓我們的自我與內心感到頭痛的是,理想的自我,從來不曾與我們同在當下。那個最好的自己,通常會是其他日子的自己──不是在過去,就是在未來。
เราอาจมองว่าเราเคยแข็งขันที่สุด ช่วงเวลาเฉิดฉายของเรา เป็นสิ่งที่เรา‘เคยเป็น’อีกทีเราก็มองว่า ตัวตนของเราที่มีศักยภาพ ดำรงอยู่ในอนาคต ในวันที่เราได้เรียนรู้ ได้อ่านหนังสือตามที่วางไว้ ได้ทำงาน เดินทางท่องเที่ยว เป็นภาพที่เราไขว่คว้า ติดตามอยู่เสมอ
我們可能會認為,自己曾經是最勤奮的──我們閃閃發光的時刻,是我們「曾經成為」的證明;另一方面,我們也認為,那個具有潛力的自己,存在於未來──在我們按照計畫學習與閱讀的那天,在我們工作、旅行的那天。那是我們不斷想抓住和追隨的模樣。
เส้นทางของการแก้ไข และการอยากจะดีขึ้น
修正之路,以及想變得更好。
การอยากจะเติบโต การจะไขว่คว้าตัวตนที่เรามีในอนาคต อาจนำมาซึ่งความเจ็บปวด ในบางความคิด การอยากจะเก่งขึ้นหรือดีขึ้น อาจสัมพันธ์กับการมองชีวิตในฐานะเส้นทางของการแก้ไข (redemption) คำว่าแก้ไขคือการที่เรามองว่า ปัจจุบันของเราประกอบขึ้นจากการที่เรามีปัญหา หรือข้อขาดพร่องต่างๆ เรามีหน้าที่แก้ไขตนเองจากข้อผิดพลาดนั้นๆ
想要成長、想要抓住未來我們擁有的那個自己,也許會帶來痛苦。在某些看法中,想變得更優秀或更好,可能和將人生視為一條修正道路(redemption)有關。所謂的「修正」,是我們認為現在的自己,是由自身的問題或各種不足所構成的,我們有責任從那些錯誤中修正自己。
เป็นการใช้ชีวิตโดยที่เรามีความผิดพลาด และการแก้ไขความผิดพลาดเป็นศูนย์กลาง
以自身帶有錯誤的心態來過生活,並以修正錯誤作為生活的核心。
ในหนังสือชื่อ On Getting Better ของ อดัม ฟิลลิปส์ (Adam Phillips) นักจิตวิเคราะห์ ชื่อของหนังสือเอง ถ้าใคร่ครวญให้ดี ถือว่ามีนัยที่เรากลับมาทบทวนการมองชีวิตของเราได้ เราอยากจะดีขึ้น เป็นเรื่องธรรมดา และตัวของอดัมเองก็ชี้ว่า ความอยากจะดีขึ้นของเราเป็นแรงผลักดันในการใช้ชีวิตโดยพื้นฐาน เราจินตนาการการใช้ชีวิตที่มองอนาคตแล้ว‘เราไม่ดีขึ้น ไม่มีการพัฒนา’ไม่ได้ ถ้าพูดแบบนี้แล้วเราคิดว่า ความคิดแบบที่ว่าพรุ่งนี้ก็เหมือนเดิม สิบปีก็เท่าเดิม เราย่อมมองว่าเป็นชีวิตที่ไร้ค่า
在精神分析學家亞當.菲利普斯(Adam Phillips)的《On Getting Better》這本書中,如果仔細反思書名本身,可說是暗示我們回頭檢視自己如何看待人生。我們想變得更好,是很平常的事;而亞當(Adam)自己也指出,我們想變得更好,是生活的基本推力。我們無法想像那種看向了未來而「我們沒有變得更好、沒有進步」的生活,如果這樣說的話,我們必然會認為「明天也一樣、十年後也一樣」的這種想法,是一種沒有價值的人生。
แต่คำว่า การ‘ดีขึ้น’ที่ว่า ในมุมมองทางการแพทย์ มันคือการเยียวยาให้หาย และการเยียวยาหรือรักษาให้หาย (getting better) คือการที่เราหายจากการป่วยไข้ แขนขาของเราหายจากความเสียหาย เรามีปลายทาง มีความรู้สึก ความเข้าที่ชัดเจนว่าเราหายแล้ว เราดีขึ้นแล้ว
但所謂的「變得更好/好轉」這個詞,在醫學的角度裡,它是指治癒。而治癒或復原(getting better)是指我們從疾病中痊癒、我們的四肢從損傷中復原。它有一個終點、有一種清楚恢復的感受,告訴我們痊癒了、我們變好了。
ทางกลับกัน การใช้ชีวิตที่เรามองตัวเองในวันพรุ่งนี้ เราไม่มีวันที่จะไปถึงความรู้สึกที่เราจะบอกว่า วันนี้เราดีขึ้นแล้ว ตัวตนอันเยี่ยมยอดที่พร่าเลือนนั้น อาจเป็นตัวตนที่สุดท้าย แม้แต่เมื่อเรามองตัวตนในวันสุดท้าย ตัวตนที่เราจะบอกว่าวันนี้เราดีแแล้วนั้น ยังคงอยู่ในวันพรุ่งนี้ซึ่งไม่มีอยู่จริงอีกต่อไป
另一方面,我們用望向明天的自己來過生活時,永遠不會達到那種我們會說出「今天我們變得更好了」的感受。模糊的理想自我,也許是最後的自我。即使當我們看著最後一天的自己、我們對他說「今天我們很棒」的自己,那仍然是存在於一個不存在的明天。
ปัญหาของการอยากดีขึ้นในวันพรุ่งนี้ อดัม ฟิลลิปส์จึงนิยามว่ามันอาจกลับมาทำลายตัวเราก็ได้ เป็นการทำลายตัวเราจากการ‘รู้มากจนเกินไป’และรู้หรือสนใจอนาคตที่มากเกิน (too knowing of the future)
關於「明天想變得更好」的問題,亞當.菲利普斯(Adam Phillips)解釋說,它可能會反過來傷害我們,這是一種源自於「知道的過多」以及「對未來知道或關心的太多」(too knowing of the future)所帶來的傷害。
ข้อสังเกตที่คมคาย คือการที่เรารู้อนาคตหรือหวั่นเกรงต่ออนาคต ซึ่งนำมาสู่การพัฒนาตัวเองอย่างไม่รู้จบ ส่วนหนึ่งคือการตีความอดีต และคาดหวังว่าการเตรียมตัวนั้นจะเป็นการรับมือกับอนาคต ซึ่งแท้จริงแล้ว อนาคตคือความไม่รู้โดยแท้ คือเราไม่มีวันรู้อะไรเลยในอนาคต แต่เราคาดหวังว่าตัวตนที่ขึ้น จะนำไปสู่อนาคตที่ดีกว่าเดิม
有一項銳利的觀察是,我們所知道的未來,或對未來感到的憂慮,導致我們無止盡地提升自己。其中之一是對過去的詮釋,並期待自身的準備能夠應付未來。但事實上,未來是無法真正知道的。我們永遠無法知道未來的任何事情,但我們期待自己變得更好,就能帶領我們走向一個比現在更好的未來。
โอเค ตรงนี้ผู้เขียนเป็นมุมมองเชิงจิตวิเคราะห์และค่อนไปทางปรัชญา คือในที่สุดแกชี้ว่าไอ้ระบบกฎเกณฑ์ การที่เราวางแผนต่างๆ ทำตัวเองให้เป็นระเบียบ พัฒนาตัวเองอย่างสม่ำเสมอ ในรูปในรอย แท้จริงแล้ว สิ่งที่เรามองไว้ว่าเป็นเป้าหมายของชีวิต ไอ้การที่เราคิดว่าเรารู้ว่าเราต้องการอะไร ในทางจิตวิเคราะห์ เราอาจไม่รุ้เลยก็ได้ว่าเราต้องการอะไรกันแน่
Okay,這裡作者採取了以精神分析為主,並偏向哲學的角度。最後他指出,那些規則系統、我們制定的各種計劃、讓自己井然有序、有規律地提升自己、處在一套模式裡──實際上,我們視為人生目標的東西、我們認為我們知道自己需要什麼,在精神分析的方面來看,我們也許並不知道自己實際上到底需要什麼。
และชีวิตหรืออนาคต ก็จะไม่ใช่สิ่งที่จะเป็นภาพจำลองจากอดีต ไม่ใช่สิ่งที่เราคาดได้ว่า ชีวิตจะนำพาอะไรมาสู่เรา ดังนั้น ภาพทั้งตัวตนของเราที่ดีขึ้น อนาคตที่เราคาดไว้ มันอาจไม่มีอะไรที่เป็นรูปธรรมโดยแท้จริง และที่สำคัญคือ คำว่าการพัฒนาตัวเอง
而人生或未來,也不是源於過去所模擬而來的畫面,並不是我們能夠期望人生會帶給我們什麼。因此,那個更好的自我形象、我們所預期的未來,或許沒有哪個是真正具體的。而最重要的是,「自我提升」這個詞。
ข้อเสนอที่ซับซ้อนหน่อย คือ การที่เรามองว่า เราทำตัวเองให้เก่งขึ้นดีขึ้น เรามองว่าเรากำลังก้าวไปสู่ชีวิตหรืออนาคตที่เรารู้สึกมั่นคงปลอดภัย ซึ่งอาจเป็นวิถีชีวิตที่เรามองเห็นได้ จับต้องได้ เรามีสิ่งที่เราจะทำ มีรายชื่อการเติบโตของเรา และเรามีแนวโน้มจะรู้สึกว่า ชีวิตเราจะปลอดภัย ถ้าเราพัฒนาและไล่ตามตัวเองในวันพรุ่งนี้
作者提出稍微複雜一些的觀點是,我們認為「將自己變得更優秀、更好,認為自己正在邁向自己覺得穩定、安全的人生或未來」,也許是我們能夠看見並觸碰到的生活方式──我們有自己要做的事、有自己的成長清單,並有一種傾向是覺得「如果我們提升自己,且追尋明天的自己,我們的人生將會過得很安全」。
ซึ่งอาจไม่จริงก็ได้ ชีวิตของเราไม่มีวันแน่นอน และข้อสังเกตสำคัญคือ การพัฒนาตัวเอง หรือการอยากจะดีขึ้น ไม่ควรผูกติดกับความรู้สึกว่า เราจะการันตีว่าชีวิตของเราจะแน่นอนปลอดภัย แต่คือการเปิดมุมมองและโอกาสต่อความเสี่ยงที่ขยายแง่มุม และรับความเสี่ยงได้มากขึ้น ไปสู่ความเสี่ยงในการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ
或許並不是真的──我們的人生永遠不會是確定的。而有一點要注意且重要的是,自我提升或想變更好,不應該與「我們會保證自己的人生將會是確定的、安全的」互相掛勾,而是對那些能夠擴展觀點的風險,打開你的視野與機會,並更加接受風險、面對學習新知時的風險。
อดัม ฟิลลิปส์บอกว่า เราไม่ได้เรียนรู้อะไรจากอดีต อดีตไม่ได้สอนอะไรใหม่กับเรา การเรียนรู้จากประสบการณ์ คือการเรียนรู้จากสิ่งที่ประสบการณ์ของเราไม่ได้สอน (Learning from experience means learning what your experience can't teach you)
亞當.菲利普斯(Adam Phillips)說,我們並沒有從過去學到什麼,過去並沒有教會我們什麼新東西。從經驗中學習,是從我們的經驗所沒有教會我們的事物中來學習(Learning from experience means learning what your experience can't teach you)。
ฟังแล้วรู้สึกว่าวกวน แต่ข้อเขียนทั้งหมดค่อนข้างว่าด้วยการที่เรามองการพัฒนาตัวเอง มองการวางเป้าหมาย และมองตัวตนของเรา ในมุมที่แน่นิ่ง ตายตัว ทั้งอนาคตและตัวตน และในที่สุด เมื่อเราพยายามวางกรอบให้มัน ในที่สุดแล้ว ธรรมชาติของสิ่งที่เราพยายามกำกับมันในกรอบ กลับเต็มไปด้วยความไร้ระเบียบ และกรอบที่เราวางไว้ อาจไม่นำไปสู่อะไรอย่างที่เราคาดหวัง
聽了也許會覺得在繞圈,但整篇文章主要在講,我們如何看待自我提升、如何看待設立目標,以及如何看待我們的自我,並以靜止的、固定的視角來看,包含未來和自我。當我們試圖設定一個框架給它,最終,那些我們試圖將它控制於框架中的事物,其本質卻是充滿混亂的;而我們設下的框架,或許並不會引領我們走向我們所期待的那樣。
สุดท้าย ข้อเขียนทั้งหมด อาจเป็นอีกมุมมอง ที่พยายามชี้ให้เห็นอีกแง่มุมของการใช้ชีวิต แน่นอนว่าการที่เราพยายามจัดการชีวิตให้มีระบบ มีระเบียบ มีเส้นทาง มีเป้าหมาย เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง แต่อนาคตที่ไร้ทิศทาง เต็มไปด้วยความน่าประหลาดใจ และการเตรียมใจรับมือกับความไม่คาดหวัง ก็อาจเป็นอีกเงื่อนไขสำคัญ ของคำว่าการเป็นตัวเราที่ดีขึ้น ที่อาจจะยืดหยุ่นขึ้น มองเห็นตัวเองในทุกวันนี้ และพร้อมกับสิ่งใหม่ๆ ที่อาจอยู่นอกจินตนาการของเรา
最後,整篇文章或許是另一個觀點,試圖指出另一種過生活的面向。肯定的是,我們努力經營人生,讓它有系統、有秩序、有方向、有目標,是一件自然的事。但缺乏方向的未來,也充滿了令人驚喜的事物。準備好應對不期不待,或許也是「成為更好、更有彈性的自己」這句話的一個重要條件。看一看現在的自己,並為可能超出我們想像的新事物做好準備。
ในที่สุดคำว่าตัวตนของเราดีขึ้น หรือเปลี่ยนไป อาจเกิดขึ้นโดยที่เราไม่รู้ตัว และเราเองก็ไม่ทันมองเห็น หรือไปกำกับกะเกณฑ์ได้ร้อยเปอร์เซ็นต์
最後,所謂「我們的自我,變得更好或改變」,可能發生在我們毫無察覺的時候,
而我們自己也來不及看見,或是百分之百去控制與規劃。
本篇取自 The MATTER:https://thematter.co/lifestyle/toxic-self-improvement/240381