【背負全世界？來看泰國人聊人生📈】

2024/11/16閱讀時間約 13 分鐘

今天想分享的Pantip文章是《ทำไมอายุ 23 เหมือนแบกโลกไว้ทั้งใบเลย ทำไมโตมาถึงเครียดผิดหวังล้มเหลวในหลายๆเรื่อง ไม่คิดว่าโตมาในเจนนี้จะแย่ขนาดนี้เลย》

　意思是《為什麼 23 歲，像是背負整個世界？為什麼長大後，會在很多事情上感到壓力、失望和失敗？沒想到在這個世代長大會如此糟糕。》

雖然標題寫著 23 歲，但我們對生活的正面或負面感受，其實與年齡無關，而是在於用什麼角度看待眼前的問題與事物。如果樂觀的看待，即使再糟糕的事，也會相信有好轉的一天；反之，如果悲觀的看待，即便是幸福的事，也會日夜憂心它的消逝。

💎【原PO】：

สวัสดีค่ะ เราอายุ 23 กำลังเรียนจบปริญญาตรี สาขา บริหาร ระหว่างเรียนก็ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย เงินเดือนไม่ได้มาก อยากลาออกก็ไม่ได้เพราะมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวที่ต้องใช้อยู่ พยายามฝึกหาสกิลเพิ่มเติม เปลี่ยนงานใหม่ไปเรื่อยๆแต่ก็ทุกอย่างดูไม่ได้เป็นตามที่คิดเลย เหนื่อยเครียด งานที่ทำก็ไม่ได้ชอบ(บัญชี)เพราะเปป็นรูทีน จบมาก็ไม่รู้อยากทำไร ชอบอะไรก็ไม่รู้ อยากลองทำงานสายอื่นครีเอทีฟแต่ก็ไม่มีประสบการณ์ เค้าก้ไม่รับ

大家好，我 23 歲，管理學系學士剛畢業。在學期間就一邊工作一邊讀書，薪水不多，想離職也沒辦法，因為有個人開銷需要支付。我努力學習更多技能，不斷換新工作，但每件事看起來都跟想的不一樣，我很累、壓力很大，做的工作也不喜歡（會計），因為工作內容千篇一律。畢業後也不知道想做什麼，喜歡什麼也不知道，想嘗試另一個創意領域的工作，但又沒有經驗，他們也不會錄取。

พอมองตัวเองกับคนอื่นเพื่อนๆรู้สึกล้มเหลวมากเลยเพื่อนเงินเดือน 2 หมื่น มีคอนเนคชั่นมากมาย ที่บ้านซัพพอร์ตได้ตลอด ก็ไม่ได้อยากเปรียบเทียบหรอกนะคะ แต่บางอย่างมันก็แอบคิดไม่ได้ พยายามคิดว่าทุกอย่างมีจังหวะของตัวเเอง แต่ก็ได้แต่เฝ้ารอพร้อมฝึกตัวเองไปเรื่อยๆให้พร้อม มันจะมีจริงๆไหมาคะ จัวงหวะชีวิต

當看著自己與其他朋友時，覺得自己很失敗。朋友薪水 2 萬，有很多人脈，家裡也一直給予支持。我也不是想要比較，但有些事就是暗自想不通。我努力的告訴自己，每件事都有它自己的時機，但也只能不斷地一邊等待，一邊訓練自己準備好。是真的會有嗎？人生的時機。

🏅【最佳留言 B3】：

- เงินเดือนไม่มาก
ตอบ คนจำนวนมากก็เงินเดือนไม่มากค่ะ บางคนแก่จะเกษียณแต่เงินเดือนไม่ถึงหมื่นยังมี

- 薪水不多。
回應你：有很多人的薪水也不多，有些老人要退休了，但薪水不到一萬的，還是有的。

- อยากลาออก แต่ลาออกไม่ได้ มีค่าใช้จ่ายส่วนตัว
ตอบ ทุกคนมีค่าใช้จ่ายส่วนตัวค่ะ แต่บางคนไปจนถึงหลายคน ต้องแบกค่าใช้จ่ายของพ่อแม่พี่น้องด้วย

- 想離職，但無法離職，因為有個人開銷。
回應你：每個人都有個人開銷，但有些人，甚至很多人，還必須要負擔父母、兄弟姊妹的開銷。

- งานที่ทำไม่ใช่งานที่ชอบ ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไร
ตอบ คนส่วนมากในสังคมการทำงานก็ไม่ได้ทำงานที่ชอบ ไม่รู้ว่าตัวเองชอบอะไรเช่นกัน แค่มีงานทำ ทำแล้วมีเงินซื้อข้าวกินก็ดีแล้ว

- 做的工作不是喜歡的工作，不知道自己喜歡什麼。
回應你：社會上大多數人的工作都不是做喜歡的工作，他們一樣不知道自己喜歡什麼，只要有工作做，做完有錢買飯吃就好了。

ปัญหาที่คุณเจอคือปัญหาที่คนส่วนใหญ่ในสังคมเจอค่ะ มันไม่ได้หนักหนามากเป็นพิเศษกว่าใครๆ ทุกเจนมันมีทั้งคนรวย พ่อแม่อุปถัมภ์ อยากทำอะไรก็ทำ ต่อให้เจ๊ง ที่บ้านก็ช่วย รวมไปถึงคนที่ลำบากมากๆ แค่เรียนต่อป.ตรียังยาก ทำงานจบมา ก้มหน้าก้มตาใช้หนี้ ไม่เคยมีชีวิตเป็นของตัวเอง ฉะนั้นคุณพยายามอย่าไปเทียบตัวเองกับคนที่ต้นทุนชีวิตดีค่ะ จริงๆคือเทียบได้ แต่ในเชิงที่จะพัฒนาตัวเองให้เท่าทันเค้า ไม่ใช่เทียบแล้วมาตัดพ้อชีวิตแบบนี้ มันก็จะยิ่งบั่นทอนกำลังใจ

你遇到的問題，是社會上大多數人所遇到的問題，沒有比誰特別嚴重。每個世代都有有錢的人，父母支持，想做什麼就做，就算失敗了，家裡也會幫忙；也有很多生活困難的人，光是讀大學都很難，工作埋頭還債，從未有過自己的人生。因此你盡量別去與家庭背景好的人比較。其實是可以比較的，但應該是提升自己，來與他們並駕齊驅，而不是比了卻這樣子抱怨人生，這只會更削弱自己的心志。

คนเราจะมีแรงสู้ได้ก็ต่อเมื่อเราคิดว่าตัวเองสู้ไหว ถ้ารู้สึกท้อแต่เริ่มแรก มันเลยกลายเป็นมองปัญหาให้มันใหญ่กว่าความเป็นจริง มองเรื่องง่ายเป็นเรื่องยาก มองเรื่องธรรมดาให้มันมีเงื่อนงำ ชีวิตมันจะดูยากไปอีกขั้น ลองปล่อยตัวให้ไหลไปตามกระแสชีวิตไปก่อนค่ะ บางทีมันอาจจะไม่ได้ยากอย่างที่คิดก็ได้

只有在我們認為自己能夠奮戰的時候，我們才有力量奮戰。如果從一開始就感到灰心，就會變成把問題看得比實際狀況更大，把簡單的事看成困難的事，把平凡的事看成有隱情，生活看上去就會更加困難。先試著放過自己，順應生命的流動，有時候也許並不如想像中的困難。

🏅【最佳留言 B1】：

คุณไม่ได้แบกโลกนะ คุณก็แบกแค่ตัวคุณ ซึ่งก็ปกติเพราะทุกคนก็ต้องดูแลชีวิตตัวเองทั้งนั้น

你並沒有背負世界呀，你只背負你自己，這是很正常的，因為每個人都得照顧自己的人生。

🏅【最佳留言 B4】：

คิดเห็นเหมือน คห 3 นะ ทุกเจนมีปัญหาของเขา และมันไม่ได้แตกต่างในแต่ละยุคสมัย มุมมองในการรับมือของแต่ละเจนต่างหากที่ต่างกัน

我的看法同 B3。每個世代都有它的問題，各個世代並沒有不同，不同的是各個世代處理問題時的視角。

คนสมัยก่อน อย่างยุคเบบี้บูม ถ้าลองมีเวลาไปคุยกับพวกเขา ปัญหาเขาหนักหนามากนะ โอกาสทางการศึกษาที่เข้าไม่ถึง ดอกเบี้ยเงินกู้ที่แพงสุดกู่ การถูกเอารัดเอาเปรียบจากชนชั้นบน กว่าจะดิ้นรนจนยืนด้วยตนเองได้นี่ลากเลือดมาก คือฟังเค้าเล่าแล้วเป็นท้ออะ แต่สิ่งที่เขาคิดคือ ก็ดิ้นรนกันไป เขาคิดแค่นั้นเลย แล้วก็หัวเราะ...เป็นไรที่น่าทึ่งมาก

以前的人，像嬰兒潮世代的人，如果試著找時間去和他們聊聊，他們的問題也很嚴重的。無法獲得教育機會、極高的貸款利息、被上層階級利用。好不容易才抗爭到能夠靠自己站穩腳步，非常的辛苦。聽他們說完後，我覺得很沮喪，但他們想的是「就奮鬥吧」，他們只那樣想而已，然後大笑著…讓人非常印象深刻。

ในขณะที่คนยุคนี้ที่โซเชียลมันเข้าถึงง่าย เลยได้รับข้อมูลมากเกินจำเป็น แล้วก็เอาชีวิตตัวเองเปรียบเทียบกับทุกสิ่งแล้วสร้างปัญหาให้ใหญ่เกินจริงกว่าที่ตนเองพบเจอ เมื่อแยกแยะปัญหาที่แท้จริงไม่ได้ ก็จะประสบปัญหาทางจิตใจต่อ

同時，在這個世代的人，很容易接觸到社交媒體，所以接收到超乎需求的資訊，然後將自己的人生與所有事物做比較，並製造出大過於自己實際所遇到的問題。當無法區分真正的問題時，接下來就會遇到心理層面的問題。

เคส จขกท จึงแก้ได้ด้วยการเปลี่ยนมุมมองเท่านั้น ซึ่งไม่ได้เกี่ยวไรกับเจนเลย

原PO的情形，只要藉由改變視角就能解決，而與世代無關。

🏅【最佳留言 B9】：

คำพูดวัยรุ่นสมัยนี้ แบกโลกบ้าง โลกใจร้ายกับตัวเองบ้าง ทำเหมือนตัวเองเจอปัญหาอยู่คนเดียว

這一代年輕人說的話，有時背負世界，有時世界對自己很殘忍，彷彿自己是獨自在面對問題。

🏅【最佳留言 B2】：

หลังๆ เริ่มเอียนกับคำว่าเจนโน้นเจนนี้มากเลย

最近開始厭煩了「那個世代、這個世代」這些詞。

ความแตกต่างของชีวิตมันมีทุกเจนเนอเรชั่นข่ะ สมัยปู่ย่าตายายหนุ่มสาวเขาก็มีเรื่องให้แบก สมัยพ่อแม่หนุ่มสาวเขาก็มีเรื่องให้แบก สมัยเดี๊ยนเป็นวัยรุ่นก็มีเรื่องให้แบก ลูกหลานเราจากนี้ไปพอเขาอายุ 20 ต้นๆ เดี๋ยวเขาก็มีเรื่องให้แบก ทุกชีวิตมีเรื่องให้แบกหมดล่ะข่ะ เราเห็นเขามีความสุข เราไม่รู้หรอกลึกๆ เขามีปัญหาอะไรที่เราไม่รู้

每個世代都有生活上的差異。在爺爺奶奶、外公外婆那個世代的年輕人，他們也有事情要背負；在父母那個世代的年輕人，他們也有事情要背負；在我這個世代還是年輕人時，也有事情要背負；往後我們的子孫，當他們 20 歲出頭時，他們也有事情要背負。每個生命都有事情要背負，我們看見他們很快樂，但我們不知道在他們內心深處，有什麼問題是我們不知道的。